วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เจ๋งคว้าอีก! ประเทศญี่ปุ่นก่อรูปทรงแอนดรอยด์สิ่งครัน ถอดแบบนรชนแน่แท้ กระเถิบได้มาจริง

เจ๋งได้อีก! ญี่ปุ่นสร้างหุ่นแอนดรอยด์ของจริง เหมือนคนจริงๆ ขยับได้จริง


เกมส์

แอนดรอยด์ ในในที่นี้นั้นเราไม่ได้หมายความว่าระบบปฏิบัติการณ์ในมือถือยอดนิยม แผ่นดินเราใช้ๆกันอยู่ในปัจจุบัน แต่แอนดรอยด์ Android เดิมนั้นหมายถึงหุ่นยนต์ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับมนุษย์ บางท่านอาจจะแยกไม่ออกว่าแอนดรอยด์ กับข้าว ไซบอร์ก ไม่เหมือนกันอย่างไร ? แอนดรอยด์นั้นแม้จะมีหน้าตาเหมือนมนุษย์ แต่ทั้งตัวนั้นเป็นหุ่นยนต์เครื่องจักร ส่วนไซบอร์กนั้นเป็นมนุษย์ เพียงแต่ใช้เครื่องจักรบางส่วนแทนอวัยวะของร่างกาย หรือก็คือคนครึ่งหุ่นยนต์นั่นเอง เรามักจะเห็นแอนดรอยด์หรือไซบอร์กในภาพนตร์หรือการ์ตูนบ่อยๆเป็นปกติ แต่ในโลกจริงนั้น ผมเชื่อว่าใครหลายๆคนคงยังไม่เคยเห็นแน่ วันนี้เราจะพาเดินทางเบิ่งกัน

แอนดรอยด์ที่ว่านี้นั้นจัดแสดงอยู่ที่ในงาน Tokyo Genius Expo หรือชื่อเก่าคืองาน Tokyo Design Week ที่ทางเพิ่งจะจัดแสดงและจบไปคราววันที่ 3 พฤศจิกายน 2014 ที่ทางผ่านมา ยังไม่ตายธุรกิจนิทรรศการจัดแสดงผลงานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมไปถึงแสดงผลงานใหม่ๆให้โลกได้ชมกัน จริงๆแลวหุ่นแอนดรอยด์ก็มีการสร้างมานานพอควรแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมีในงานนี้เป็นครั้งแรก แต่ทว่าหุ่นแอนดรอยด์ในงานนี้เริ่มมีความคล้ายมนุษย์มากกว่าที่อยู่ผ่านๆมา เธอตรงนั้นกอบด้วยชื่อว่า Asuna (ไม่ใช่นางเอกจาก Sword Art Online นะเอิ๊กๆ) และสร้างจากบริษัท A-Lab Co. Ltd. เป็นแอนดรอยด์ที่ดูเหมือนมนุษย์มากที่สุดที่มีในตอนนี้ จากเดิมที่ส่วนใหญ่มักเหมือนตุ๊กตามากกว่า ซึ่งผู้สร้างจงใจให้เธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงอายุราวๆ 15 ปี โดยพยายามเก็บรายละเอียดในเรื่องผิว ใบหน้า ดวงตา และอื่นๆเพื่อให้ดูจะมนุษย์แห่งสุดเท่าสถานที่จะดำเนินงานคว้า

เกมส์

เกมส์

สาเหตุที่บริษัท A-Lab Co. Ltd. สร้างหุ่นแอนดรอยด์ให้ดูเหมือนมนุษย์มากที่สุด เพราะต้องการจะให้มันเป็นคู่หูคนรู้ใจในยุคอนาคต โดยเฉพาะพร้อมด้วยคนไม่มีลูกไม่มีเมียตลอดแยะ คล้ายๆกับการ์ตูนเหตุ Chobits พื้นที่คอมพิวเตอร์รูปร่างเหมือนคนนั่นแหละ กับหากว่ามีแน่แท้ก็อาจมีคนจ่ายลงมาธำรงเกี่ยวกับสนองเหตุด้วยฟิกเกอร์หรือไม่ตุ๊กตาก็งามเหมือนกัน หนอ อย่างไรก็ตามจำเป็นสละให้ปฏิรูปให้พ่างผู้มีชีวิตยิ่งกว่านี้ไม่ช้า ในเวลานี้อีกต่างหากคงเพ่งพิศหลอนๆทรงไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น